วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ถ้าได้ทะเลาะกัน


จากที่ใช้เวลาดูใจกันเพียงไม่นานในที่สุดเธอก็ตกลงแต่งงานกับเขาชายผู้เป็นรักแรกของเธอ
ในวันแต่งงาน ว่าที่สามีของเธอได้ซื้อตุ๊กตาคู่บ่าวสาวมามอบให้เป็นของขวัญ

ด้วยความที่เธอเพิ่งได้รู้จักความรักมาเพียงน้อยนิดเธอจึงเข้าใจเพียงว่าสามีของเธอช่างเป็นคนโรแมนติกเสียจริง
แต่เนื่องด้วยความที่เธอยังไม่เข้าใจคำว่ารักและไม่ได้ใช้เวลานานพอ จึงทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยมาก
เพราะเธอเป็นคนที่เอาแต่ใจ สามีของเธอถึงจะเป็นคนที่มีเหตุผลมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่า แต่ก็เป็นคนอารมณ์ร้อน
ทั้งคู่จึงทะเลาะกันรุนแรงมาก แต่เขาก็จะเป็นคนไกล่เกลี่ยให้เรื่องร้ายบรรเทาลงได้ทุกครั้งไป

จนครั้งนี้ ด้วยความโมโห เธอได้ปัดตุ๊กตาคู่รักลงจากโต๊ะที่เคยมีทั้งสองยืนเคียงกัน
บัดนี้ตุ๊กตาทั้งสองกระจัดกระจายไปคนละทางเธอหยิบตุ๊กตาเจ้าสาวมาขวางใส่เขาประกาศจะขอหย่ากับสามี
เขากอดตุ๊กตาเอาไว้แน่น แล้วเดินออกจาเรือนหอแห่งรักไปทั้งน้ำตาหลังจากพายุสงบลงหญิงสาวก็นั่งนิ่งแล้วร้องไห้
เธอเหลือบไปเห็นตุ๊กตาเจ้าบ่าวที่เหมือนจะนอนร้องไห้อยู่ที่พื้นเธอหยิบมันขึ้นมากอดอย่างเจ็บปวดที่สุด

ปากเธอพร่ำบอกรักเจ้าบ่าวของเธอร้อยพันครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบใดๆจากเจ้าตุ๊กตาตัวน้อย
เธอลุกขึ้น กอดตุ๊กตาเดินออกไปนอกบ้านตั้งใจจะออกไปตามหาเขา...คนรักเพียงคนเดียวของเธอ
แต่พอพ้นประตูบ้านไป ก็เห็นสามีของเธอนอนอยู่ที่ริมรั้วเขาหลับไปทั้งๆที่ยังกอดตุ๊กตาเจ้าสาวอยู่
เธอจึงเข้าไปปลุกแล้วบอกว่า

“ขอโทษนะจ๊ะ เพื่อนของฉันดูท่าทางเหงาเพื่อนของเธอก็ทำหน้าเศร้าจังเลย
ฉันจึงอยากจะขอเจ้าสาวจากเธอมาให้เพื่อนฉันเพื่อให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

เธอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแล้ว และเธอก็กำลังยิ้มเช่นกันมันเป็นช่วงเวลาที่เขาและเธอช่างสุขใจเหลือเกิน

“ให้ไม่ได้หรอก ฉันมีเพียงแค่เธอคนนี้เท่านั้นเธออยู่ปลอบฉันทั้งคืนเลยถ้าให้เธอไปแล้วใครจะปลอบฉันล่ะ"
แล้วเธอก็หัวเราะ “โธ่ ให้ฉันไม่ได้เหรอ แล้วฉันจะคอยปลอบเธอเองเถอะนะฉันซื้อก็ได้เท่าไหร่ฉันก็จะซื้อให้ได้”

“ถ้าความรักมันซื้อขายกันได้ง่ายๆก็ดีน่ะสิ” เขาตอบ
“ถึงยังไงฉันก็คงขายให้ไม่ได้หรอกเพื่อนฉันคนนี้มีค่าสำหรับฉันมากเพราะเธอนำพาคนที่ฉันรักกลับมาหาฉันอีกครั้ง”

หญิงสาวตื้นตันใจจนน้ำตาไหลลงมา
“จะพอมั้ยถ้าฉันจะจ่ายแสนกอด ล้านจูบ และความรักที่ไม่มีวันหมดไป”
“กลับบ้านด้วยกันนะ…”

เวลาทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่พอใจซึ่งกันและกันในช่วงเวลานั้นส่วนของโทสะจะมีมากกว่าความรัก
ยิ่งหากเธอโยนความรักทิ้งไปมันก็จะเหลือเพียงความโกรธ ความไม่พอใจเท่านั้นเอง
และเพราะเธอโยนความรักทิ้งไป เธอจึงลืมไปว่าถึงแม้ตอนที่ทะเลาะกัน จะโกรธ เกลียด ด่าว่ายังไง
เวลานั้นเราก็ยังรักกันอยู่ ที่ทะเลาะก็เพราะรักไม่ใช่เหรอทำไมไม่กอดความรักเอาไว้
เธอจะเข้าใจความหมายของการทะเลาะกันทะเลาะกันก็เพราะว่ารักมาก แต่ไม่เข้าใจกัน
เพราะเธอโยนความรักทิ้งไปในตอนที่ทะเลาะกันเธอจึงกล้าจะบอกเลิกได้
เพราะความรักที่เธอเคยมีมากมายอยู่บนพื้นไม่ได้อยู่ในใจของเธอและเธอจะเจ็บปวดที่สุด

เมื่อเก็บความรักบนพื้นกลับมาใส่ในใจเธออีกครั้ง...
ดีใจทุกครั้งที่ได้ทะเลาะกัน เพราะรู้ดีว่าคนที่กำลังด่าว่าฉันอยู่
เธอทำเพราะว่ารักฉัน รู้ดีว่าเมื่อปัญหาจบลง ความเข้าใจจะเพิ่มขึ้น
ความรักก็เหมือนกัน เคยสังเกตมั้ยว่าเราจะรักกันมากขึ้น

ถ้าได้ทะเลาะกันคนสองคน มาจากคนละทาง ความแตกต่างมันต้องมีอยู่แล้ว
ตอนนี้เราเหมือนเดินขนานกัน แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันช่องว่างระหว่างเราจะค่อยๆลดลงไป
ทำใจเอาไว้เถอะ เพราะเราจะต้องทะเลาะกันไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ
จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เรารวมกันเป็นหนึ่งเดียว...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น