วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เพียงความทรงจำ


ตัวหนังสือสามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปได้ดีกว่าคำพูดมากมายนักจึงไม่น่าแปลกที่ฉันจะหลงใหลในเสน่ห์ของตัวอักษรมาหลายปีดีดักแล้วฉันมักจะเรียกตัวเองว่า "คนเขียนหนังสือ"อยู่เสมอไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันคงเพราะว่าฉันเขียนหนังสือไม่ดีพอที่จะเรียกตัวเองว่า"กวี" ได้ล่ะมั้ง โลกของตัวอักษรสวยงามนักแค่มีปากกาสักด้าม เศษกระดาษสักแผ่นและมีเขาคนนั้นเป็นพระเอกของเรื่องสักคนก็คงเพียงพอ

เรื่องราวความรักของฉันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าในสมุดบันทึกประจำวันของฉันมีชื่อเขาตั้งแต่วันมอบตัวทีเดียว…คงเพราะความบังเอิญที่ทำให้เราสองคนมักจะได้ทำอะไรด้วยกันเสมอได้เล่นละครด้วยกันได้นั่งคู่กันในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่งไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง…แต่เรากลับไม่ได้ใกล้ชิดกันเท่าที่ควรไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

…จนวันหนึ่ง…
"มีนอยากวาดรูปเหรอ เราสอนให้ก็ได้นะ"

นี่แหละประโยคสำคัญที่ทำให้เราสองคนได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้นเขารีบกระวีกระวาดไปหากระดาษกับดินสอมาวางไว้ตรงหน้าฉัน
ไม่รู้ว่าวิญญาณครูไปสิงอยู่กับชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเขาลากเส้นเป็นตัวอย่างแล้วให้ฉันลองทำตามไปช้าๆลมที่พัดแรงทำให้ผมของฉันปลิวจนยุ่งไปหมด

"ขอโทษนะ" เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาหยิบปอยผมของฉันที่ปลิวเพื่อเหน็บหูของฉันไว้อย่างเดิม
"ขอบคุณนะเฟิร์ส" ฉันพูดเขินๆ ใบหน้ากลายเป็นสีแดงระเรื่อ

เขายิ้มบางๆเหมือนกับจะบอกว่าไม่เป็นไรหลังจากทนนั่งดูฉันลากเส้นที่ดูไม่ได้เอาเสียเลยมาเป็นเวลานานเขาก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างหดหู่

"แย่กว่าเราตอนฝึกวาดใหม่ๆซะอีก" เขาทำท่าทางเหมือนครูที่กำลังดุนักเรียนอยู่ยังไงยังงั้น
"ก็คนมันไม่เก่งนี่นาไม่ต้องสอนก็ได้นะ"ฉันบ่นเบาๆแล้ววางดินสอลงแรงๆ
"เอาเหอะฝึกต่อไปละกัน วาดรูปน่ะไม่ยากหรอกถ้ามีคนสอนดีๆอย่างเรา"เขาบอกยิ้มๆ
ฉันส่ายหน้ากับความหลงตัวเองของเขา…หลงตัวเองจริงๆนะนายเฟิร์สจอมเก๊ก…

เราสนิทกันมากขึ้นทุกที…สนิทท่ามกลางเสียงแซวและวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนที่ไม่เว้นแม้แต่ในคาบเรียน
"สวีทกันจังเลยคู่นี้"เสียงเพื่อนๆที่ดังมาจากด้านหลังห้องทำให้ฉันต้องวางดินสอลงอายๆ
"เฮ้ย! เธออย่าแซวซิเราไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นสักหน่อย"เฟิร์สแก้ตัวให้ แต่เพื่อนๆ ทำสีหน้าไม่เชื่อแต่พอเห็นหน้าตาเอาเรื่องของฉัน
ก็เลยจำใจต้องสงบปากสงบคำแล้วเดินหนีไปคุยกันที่อื่นแทน

"ช่างเขาเหอะ"ฉันพูดเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาวาดรูปต่อไป
"มีน…เรามีอะไรจะบอก" เขาพูดท่าทางเขินๆ
"อารายเหรออออ"ฉันเงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดลากเสียงยาว
"เราชอบผู้หญิงคนหนึ่งนะ" สีหน้าอายๆของเขาทำให้ฉันแอบหวังอยู่ลึกๆว่านี่คงจะเป็นวิธีการบอกรักทางอ้อมของเขา
แต่…. "คนนั้นไง" ว่าแล้วเขาก็ชี้ไปที่เพื่อนร่วมสถาบันคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูฉันหันไปยิ้มล้อบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยจนนิดเดียวอาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่เคยหวังให้เขามารักแค่รู้สึกรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวก็พอเสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้นฉันวางดินสอลงโดยอัตโนมัติ

"เรากลับแล้วนะ" ฉันบอกเบาๆ
"ขอบคุณสำหรับการสอนวาดรูปและทุกๆอย่างนะ"
"มีนพูดเหมือนสั่งลาเลย" เขาพูดติดตลก
"อย่างกับเราจะไม่ได้สอนมีนอีกอย่างนั้นแหละ"
"ใครจะไปรู้ล่ะ...ชีวิตมันไม่แน่หรอกเฟิร์ส" ฉันพูดทีเล่นทีจริงแล้วเดินไปปิดกระจกและประตูห้องเรียนเขาเดินมาช่วยอีกแรงหนึ่ง
"วันเสาร์เจอกันที่เรียนพิเศษแล้วกันนะ บ๊ายบาย" เขาบอกลาแล้วโบกมือให้ ฉันยิ้มรับแล้วโบกมือตอบไป
"กลับบ้านดีๆนะจ้ะหนูมีน" เสียงตะโกนของเขาที่ดังตามหลังมาทำให้ฉันแอบอมยิ้มบางๆอย่างมีความสุข

ฉันนั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขานับตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน ตลอดเส้นทางกลับบ้านไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่แสนจะธรรมดาคนนี้จะกลายมาเป็นคนสำคัญของหัวใจถึงจะรู้ว่าเขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้วแต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรเพราะฉันก็ยังคงมีความสุขที่จะรักเขาที่จะได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะของเขามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันคนนี้แล้วฉันหยิบภาพเหมือนของฉันที่เขาวาดให้ตอนวันเกิดขึ้นมาดู

"สุขสันต์วันเกิดนะครับ"
ฉันยังจำเสียงใสๆของเขาที่บอกตอนเช้าตรู่ในวันสำคัญของฉัน
"มีความสุขมากๆนะครับมีน"
รอยยิ้มจริงใจของเขาในวันนั้นยังบันทึกอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอมา
….ไม่เคยลบเลือน

"โครมมมมมมม!!!!!!" เสียงดังขึ้นที่ถนนสายหนึ่งบรรดาไทยมุงต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์รถคว่ำร่างของหญิงสาวคนหนึ่งถูกหามออกมากระดาษวาดเขียนตกลงมาจากมือที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดของเธอชายแก่คนหนึ่งหยิบขึ้นมาดูเห็นหยดเลือดเปรอะไปทั่วแผ่นกระดาษนั้นแต่ก็พอจะมองเห็นลางๆ ว่าเป็นภาพวาดของหญิงสาวที่กำลังยิ้มสดใสในชุดนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดัง
มีลายมือที่เขียนไว้ใต้ภาพอย่างสวยงามว่า
"เพียงความทรงจำ…เฟิร์ส"
ชายแก่คนนั้นทิ้งภาพไว้ที่เดิมอย่างไม่ใคร่สนใจใยดีนักลมเริ่มพัดกระหน่ำแรงขึ้นเรื่อยๆจนทำให้กระดาษแผ่นนั้นปลิวตกลงไปบริเวณลำคลองริมถนนและค่อยๆจมหายลงไปใต้ผืนน้ำนั้น…

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - -

ผมได้สมุดเล่มนี้มาจากเพื่อนสนิทของเธอ…ผมเลยขอเขียนเรื่องนี้ให้จบด้วยมือของผมแทน
เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาผมไปเรียนพิเศษก็นึกแปลกใจอยู่ตะหงิดๆว่าทำไมเธอถึงไม่มาเรียนเพราะปกติเธอไม่ใคร่จะชอบหยุดเรียนนัก
ก็บังเอิญผมไปพบเพื่อนสนิทของเธอเข้าพอดิบพอดี

"เฟิร์ส…รู้เรื่องมีนหรือยัง" เขาถามผมทันทีที่พบกัน
สีหน้าของเขามีแววเศร้าๆปรากฏอยู่ตาก็ดูบวมแดงผิดปกติ

"ยังครับ มีนทำไมเหรอ" ผมถามยิ้มๆเธอก็คงไม่สบายแต่อาจจะหนักหน่อยถึงยอมขาดเรียนวันนี้…ผมคิด
"มีนรถคว่ำ ตอนนี้อยู่ห้อง ICU โรงพยาบาล…………." เขาบอกผมอึ้งไปสักพักใหญ่ๆ

พอได้สติอีกทีก็มายืนอยู่หน้าห้อง ICU โรงพยาบาลแห่งหนึ่งข้างๆเพื่อนสนิทของเธอคนเดิมเขาจัดการเป็นธุระไถ่ถามพยาบาลถึงเตียงของเธอเพราะไม่เห็นเธออยู่ที่เตียงเดิม

"เสียใจด้วยนะคะ คุณมีนาหัวใจล้มเหลวเมื่อ 15 นาทีที่แล้วค่ะ"
หูผมอื้อไปหมดจนไม่ได้ยินเสียงพยาบาลที่พูดอธิบายเรื่องราวต่อจากนั้นถ้าจะถามผมว่าวินาทีนั้นผมรู้สึกเช่นไรผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันรู้เพียงแต่ว่าน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาท่วมใบหน้าของผมตั้งแต่ได้รับรู้ว่า
........"เธออจากไปแล้ว"........

ผมอ่านบันทึกเล่มนี้หลังจากที่ร่างของเธอฌาปนกิจเสร็จเรียบร้อยแล้วผมเพิ่งรู้ว่าเธอรักผม…
แต่ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยว่าคำพูดที่ผมพร่ำบอกกับเธออยู่บ่อยครั้งว่า "รักกับชอบแตกต่างกัน"
มันคือสิ่งที่ผมอยากให้เธอรับรู้ผู้หญิงคนที่ผมเคยชี้ให้เธอดูคือคนที่ผมชอบแต่ผู้หญิงคนที่ผมรักคือ
"เธอคนนี้"…
เธอคนที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ผมอยู่เสมอ…เธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าผมคิดอย่างไรกับเธอถ้าผมสามารถขอพรวิเศษใดๆได้ผมอยากจะขอแววตาคู่นั้นที่เคยจ้องมองผมด้วยความรู้สึกดีๆอยู่เสมอรอยยิ้มที่เคยมีให้เวลาผมท้อแท้เสียงหัวเราะที่เคยทำให้โลกทั้งโลกดูสดใส..…ผมอยากจะขอให้เธอกลับคืนมา…..

เธอคือรักครั้งแรกของผมอาจต้องใช้เวลามากสักหน่อยในการทำใจว่าต่อจากนี้จะไม่มีเธออยู่บนโลกใบนี้อีกแล้วไม่มีคนที่เข้าใจและคอยห่วงใยผมตลอดมาแต่ผมรู้เสมอว่าเธอจะคอยจ้องมองผมอยู่ห่างๆเหมือนอย่างเคยเพราะนั่นคือสิ่งที่เธอเรียกมันว่าความสุขและเธอจะรอผมอยู่ ณ ที่แห่งนั้นตรงดินแดนแห่งความรักที่สร้างไว้สำหรับเราเพียงสองคน…
สักวันผมจะไปหาเธอ…
หลับให้สบายนะครับ…มีน…
หลับตาเถอะนะ…แล้วเราก็จะพบกันอาจเป็นเพียงฝันก็พอใจ
หลับตาเถอะนะ…ถึงตัวเราจะแสนไกลห่างกันเพียงไหนก็ใกล้เธอ
ชีวิตขีดเส้นทางไว้ให้เราเจอกันขีดทางที่ผกผันให้มีวันห่างไกล
หลับตานานนาน…คิดถึงวันเก่าจะยังมีเราสองคน…หลับตาเถอะนะเธอ…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น